MKT Team

ช่วงนี้ฝนตกทั่วฟ้า หลายวันติดต่อกัน ส่งผลให้ท้องถนนหลายๆแห่งทั้งในเมืองกรุงและต่างจังหวัดต่างกลายสภาพเป็นคลองชั่วคราว วันนี้ผมไปเจอเทคนิคการขับรถลุยน้ำมาฝากกันครับ

  1. ขับผ่านน้ำด้วยความรวดเร็วเพราะกันชนหน้ากับล้อรถจะช่วยแหวกน้ำไม่ให้เข้าถึงประตู
  2. อย่าขับรถถอยหลังขณะลุยน้ำถ้าไม่จำเป็นเพราะด้านหลังของรถจะมีลักษณะตั้งฉากเมื่อถอยหลังจะทำให้น้ำไหลสวนกลับกับวงปิดประตู
  3. เปิด กระจกไว้เพื่อให้อากาศภายนอกเข้ามาภายในรถแล้วซึ่งจะทำให้อากาศภายนอกเข้ามา ดันน้ำในรถไว้ไม่ให้เข้ามาภายในรถ(ใช้หลักการเหมือนเรือที่มีอับเฉาอะครับ)
  4. อย่าจอดรถแช่น้ำไม่ว่ากรณีใดๆเพราะจะทำให้น้ำค่อยๆซึมเข้ามาในรถในช่วงที่เราจอดและเมื่อน้ำเข้ามาได้แล้วมันจะเข้ามาเรื่อยๆ
  5. ห้าม ดับเครื่องในขณะจอดแช่น้ำเพระเมื่อเราดับเครื่องสูบบางสูบอยู่ในจังหวะคลาย เมื่อดับเครื่องจะทำให้ลูกสูบวิ่งสวนทางประมาณครึ่งรอบทำให้สูบจะดูดน้ำกลับ เข้ามาทางท่อไอเสีย
  6. อย่าเปียนเกียร์บ่อยๆในขณะลุยน้ำเพราะเมื่อเราเปลี่ยนเกียร์ในห้องเกียร์จะ มีการดูดอากาศกลับเข้ามาทางจมูกเกียร์ซึ่งเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าน้ำได้ ท่วมรูจมูกเกียร์ไปเรียบร้อยแล้วหรือยัง

    04
  7. อย่าทำรถให้เป็นภาวะสุญญากาศเพราะเมื่อรถเป็นภาวะสุญญากาศจะทำให้น้ำไหลเขามาแทนที่อากาศในรถ
  8. อย่า เปิดเครื่องปรับอากาศในขณะที่รถอยู่ในน้ำเพราะจะทำให้พัดลมไฟฟ้าหน้าเครื่อง ทำงานซึ่งพัดลมนี้จะดูดเศษวัสดุเข้ามาทางหน้ารถแล้วอาจจะทำใหเศษวัสดุนั้นไป ขัดบใบพัดลมก่อให้เกิดความเสียหายได้  ในกรณีคอมเพรสเซอร์แอร์ก็เช่นกัน   น้ำอาจจะเข้าไปในระบบสนามแม่เหล็ก(ครัชแอร์)ทำให้เกิดการช็อตเสียหายได้
  9. ปิด อุปกรณไฟฟ้าทุกขนิดที่มีอยู่ในรถเปิดไว้แต่ไฟหน้ารถเพียงอย่างเดียว    ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามในการลุยน้ำต้องเปิดไฟหน้าเพราะจะช่วยให้เราเห็นสภาพใต้ น้ำได้
  10. เมื่อขับรถพ้นน้ำมาแล้วให้แตะเบรคเบาๆแช่ไว้ประมาณ3-4ครั้งเพื่อเป็นการรีดน้ำออกจากจานเบรค
  11. เมื่อ ขับรถผ่านน้ำมาเรียบร้อยแล้วให้ออกมาตรวจดูรถโดยรอบว่ามีเศษวัสดุอะไรติดมา กับรถของท่านหรือปล่าวโดยเฉพาะบริเวณกระจังหน้าและห้องเครื่องเพราะพัดลม เครื่องจะดูดเศษสดุเข้ามา
  12. ตรวจ ดูน้ำมันเครื่อง   น้ำมันเกียร์-เฟื่องท้าย   ว่ามีสีอะไรถ้าน้ำมันเหล่านี้มีสีลักษณะคล้ายๆกับน้ำนมควรรีบเปลี่ยนและล้าง โดยด่วน

The-Flood-Bangkok-0

ที่มา http://bbznet.pukpik.com