MKT Team
สวัสดีปีใหม่ พ.ศ 2554 กันอย่างเป็นทางการกันอีกครั้ง สำหรับเพื่อนๆ ช่วงนี้หลายคนก็เริ่มที่จะกลับสู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หารถใหม่อีกครั้ง และแน่นอนว่านอกจากรถใหม่แล้ว รถยนต์มือสองแม้จะด้อยลงไปแต่ก็ยังได้รับความนิยมเหมือนเคย หตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมาเมื่อช่วงปลายปีนั้น ที่ส่งผลให้รถจำนวนมากหลายคันจมอยู่ใต้บาดาลและแน่นอนว่า มันย่อมไม่ใช่รถที่คุณควรมองและเลือกหามาใช้เป็นรถคู่ใจคันต่อไป แม้รถพวกนี้หลายๆคันจะซ่อมและวิ่งใช้งานได้ ทว่ามันก็จะมีส่วนอื่นๆที่เสียหายได้ตามมา และเจ้าของรถในเขตที่ประสบภัยหลายคนจึงตัดสินใจขายรถยนต์ และนำมาสู่วงการรถยนต์มืองสอง

อีกครั้งที่นี่เป็นมหาวิปโยคของวงการรถมือสอง เพราะไม่มีใครที่อยากจะใช้รถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมและได้รับความเสียอย่างหนัก แต่นี่อาจเป็นโอกาสของใครบางคนที่รู้จักเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสและมันทำให้รถที่ถูกน้ำท่วมหลายคันเข้าสู่เต๊นท์รถมือสอง

นี่เป็นข่าวล่ามาเร็ว และเราอยากให้หลายคนที่กำลังมองหารถมือสองคันใหม่มาขับได้รู้ เพราะเราไม่แน่ใจว่าคุณอาจจะเจอแจ๊คพอทหรือไม่ และวันนี้เราจะพาไปรู้จักรถมือสองที่ถูกน้ำท่วมว่าดูอย่างไรจึงจะรู้

1.จับจุดตัวถัง สิ่งแรกที่เราสามารถเห็นได้และพอที่จะเดาประวัติว่ารถคันนั้น ถูกน้ำท่วมมาหรือไม่ควร เริ่มจากที่ตัวบอดี้รถกันก่อน ซึ่ง หากมีจุดที่ผุหรือเกิดสนิมในบริเวณที่ไม่ควรจะเกิด ให้สันนิษฐานกันก่อนเลยว่า รถคันดังกล่าวนั้นถูกน้ำท่วมมา โดยดูจากรอยจะเข็บตัวถัง ในจุดต่างๆ โดยเฉพาะ ใต้ท้องรถ อันนี้ของมันฟ้องกันอยู่แล้ว ดูได้ง่ายๆไม่ยาก โดยเฉพาะในพวกชุดช่วงล่างหรือใต้ท้อง ยิ่งแชสซีนี่ใช่เลย

2. กลิ่นห้องโดยสาร ตามปกติแล้วบรรดาผู้จัดจำหน่ายรถยนต์มือสองในปัจจุบันจะมีการปรับปรุงรถก่อนมาตั้งจำหน่าย และแน่นอนว่า มันยากที่จะทำให้เรารู้ว่า รถยนต์คันดังกล่าวนั้นถูกน้ำท่วมมาหรือไม่ ซึ่งตามปกติแล้ว เบาะ พรม และทุกอย่างจะถูกนำออกไปซัก เพื่อขจัดคราบต่างๆ แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะจำกัดคือ กลิ่นในห้อง โดยสาร ที่จะติดรถอยู่อย่างนั้น เนื่องจากน้ำที่ท่วมนั้นเป็นน้ำโคลน กลิ่นต่างๆจะอยู่เป็นเวลานานและถือเป็นหลักฐานที่สำคัญ

3. เครื่องยนต์ช่วยชี้แนะ เครื่องยนต์เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีความสำคัญในการบ่งบอกประวัติรถยนต์คันนั้น และกับในกรณีน้ำท่วมเช่นกัน ที่เครื่องยนต์คงจะถูกยกออกมาถอดประกอบเพื่อล้างไส้ในจากน้ำโคลนที่เข้าไป แต่หลายๆอู่ มักจะไม่นิยมเปลี่ยนน๊อตตัวเครื่องยนต์ใหม่สักเท่าไรนัก และ เมื่อเหล็กอยู่ในน้ำเป็นเวลานานๆ น๊อตก็จะเป็นสนิมหรือมีร่องรอยการยากาวในการถอดประกอบเครื่อง โดยเฉพาะ ส่วนฝาสูบ หรือไม่ถ้ามีความรู้สึกว่าเครื่องยนต์มันดูใหม่เกินไปนั้น ให้ลองดูอย่างละเอียดดี เพราะบางครั้ง เขาก็ใช้วิธีเปลี่ยนเครื่องเอาก็เป็นไปได้

4. ระบบไฟฟ้า อีกประการที่แก้ไม่จบ น้ำกับไฟฟ้าไม่ใช่ของถูกกัน และแน่นอนว่า มันหมายถึงระบบไฟฟ้าภายในรถที่อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ปัจจุบันถือว่าละเอียดอ่อนมาก และถ้ารถคันดังกล่าว มีอาการประเภทเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อย่าง กระจกไฟฟ้า แล้วทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง อันนี้สันนิษฐานได้ว่า อาจเคยจมน้ำมา เนื่องจากความชื้นที่ยังจับตัวแน่นในแผงวงจรทำให้เกิดการทำงานที่ผิดปกติ และมันมักจะทำให้รถคันดังกล่าว มีปัญหาแบบแปลกๆ

ทั้งหมดนี้เป็นหลักการเบื้องต้นในการดูรถมือสอง ว่าจมน้ำมาหรือไม่ เพราะรถเหล่านี้ ถ้าซ่อมมาไม่ถึงก็จะไม่จบ แม้จะไม่ใช่รถอุบัติเหตุก็ตาม อย่างไรก็ดีการซื้อรถมือสอง ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรจะให้ผู้ชำนาญการไปร่วมในการพิจารณา ก่อนการตัดสินใจการซื้อรถ
0 Responses

Post a Comment